คนกล้าคืนถิ่น

สมบัติ สวัสดิ์ผล

  • คนกล้ากญบุรี
  • เว็บไซต์ :
  • Facebook :

“ตอนลูกชายสองขวบ ผมเริ่มสังเกตเห็นว่าลูกไม่พูดและสื่อสารกับเราเเปลกๆเหมือนหุ่นยนต์ไม่มีชีวิต ไม่มีจิตใจ ผมกับคุณเดือนเลยพาไปหากุมารเวชประจำซึ่งก็บอกกับเราว่าให้รอดูอาการไปก่อน เราเลยศึกษาหาข้อมูลเองไปเรื่อยๆจนน็อตครบสามขวบ หมอก็ยืนยันว่าเขามีอาการ Asperger’s Syndrome”

นี่คือหนึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้คุณสมบัติตัดสินใจบอกลาชีวิตนักธุรกิจเจ้าของบริษัทไอทีและเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อผันตัวมาเป็น ‘คนป่า’ ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจอยากใช้เกษตรในการบำบัด Asperger’s Syndrome ของน็อต-ลูกชาย เพื่อให้เขาพึ่งพาตนเองได้เเละมีคุณภาพชีวิตที่ดีท่ามกลางธรรมชาติที่การอยู่ภายใต้ระบบในเมืองไม่สามารถตอบโจทย์ให้เขาได้

Asperger’s Syndrome เป็นชื่อของโรคความบกพร่องทางพัฒนาการทำให้ยากต่อการเข้าสังคม เนื่องจากไม่สามารถเข้าใจสีหน้าท่าทางหรือความรู้สึกของมนุษย์ได้อย่างครบถ้วน เเละมีพฤติกรรมยึดติดกับกิจวัตรที่ทำประจำหมกมุ่นกับการทำอะไรซ้ำๆ แต่จะฉลาดและรอบรู้อย่างลึกซึ้งในสิ่งที่ตัวเองสนใจเป็นพิเศษ Asperger’s ไม่ใช่ชื่อของโรคที่คนในสังคมไทยคุ้นเคยนัก ดังนั้นคุณสมบัติจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ศึกษาและรวบรวมองค์ความรู้ต่างๆ รวมทั้งเเบ่งรายได้ทุกเดือนมาสนับสนุนโครงการวิจัย โดยมีจุดประสงค์หลักคือการบำบัดอาการของลูกชายเเละมีผลพลอยได้คือการเผยเเพร่ความรู้เพื่อสาธารณะประโยชน์เขาใช้เวลาขับรถไปกลับวันละ 5-6 ชั่วโมง จากบางพลี-สมุทรปราการไปยังรามคำเเหงเพื่อพาน็อตไปพบปะกับหมอเเละนักสังคมสงเคราะห์ผู้เก็บข้อมูลทำการวิจัยเรื่องโรค Asperger’s ซึ่งยังเป็นที่รู้จักน้อยมากในตอนนั้น

ที่เคยหวังไว้ว่าจะทำนู่นทำนี่จะเติบใหญ่เป็นนักธุรกิจใหญ่โต แม้ตอนนี้จะไม่มีอะไรเลย แต่ถ้ารักษาหรือว่าดูแลให้ลูกเขาพึ่งพาตัวเองได้ เราจะทำทุกอย่างแค่คำนี้คำเดียว มันคือสัจจะตั้งแต่นั้นมา ผมไม่ได้ทิ้งธุรกิจนะก็ทำประคองเพื่อให้มันมีรายได้มาดูแลน็อต แต่ทำอยู่ในเมืองตามประสาคนเมือง

ภายในระยะเวลาสามปีความพยายามทั้งหมดของคุณสมบัติก็ทำให้น็อตสามารถสื่อสารกับเขาได้ หลังจากนั้นคุณสมบัติจึงให้ลูกชายทดลองเข้าเรียนในหลากหลายระบบไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนรัฐบาล เอกชน หรือสายอาชีพ ทว่า อาการของเขาไม่ดีขึ้นเลยตลอดช่วงวัยเรียน

“น็อตเป็นเหมือนซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มี หน่วยความจำไม่สิ้นสุด เเต่ไม่มีFirewall คือ ไม่ว่าจะโปรเเกรมดีหรือไวรัสร้าย เขารับหมด”

ด้วยเหตุผลนี้ การอยู่ในระบบสถาบันที่ไม่สามารถรองรับความพิเศษของน็อตได้ จึงทำให้อาการของเขาเเย่ลง คุณสมบัติจึงลองสอนทักษะต่างๆให้เเก่น็อตด้วยตนเอง เพื่อศึกษาระบบการตอบรับข้อมูลของเขา เริ่มที่การสาธิตท่านวดเท้าเเผนไทยให้น็อตดู 25 ท่า เมื่อเข้าท่าที่ 26 น็อตก็เริ่มทำเองได้โดยที่คุณพ่อให้คำเเนะนำเพียงเล็กน้อย จากนั้นมาท่าที่ 30 เป็นต้นไป น็อตก็เริ่มทำเองได้โดยที่คุณพ่อนอนเป็นหุ่นให้อย่างสบายๆ คุณสมบัติเลยสังเกตเห็นว่า ‘Automatic Learning’ ของลูก เริ่มทำงานเเล้วเเละนำหลักการนี้มาปรับใช้ในการเรียนรู้ เรื่องต่างๆเมื่อกลับบ้านไปทำเกษตร

คุณสมบัติเล่าว่า ก่อนจะให้น็อตเริ่มศึกษาการตัดหญ้า ซึ่งดูเป็นสิ่งที่อันตราย เขาต้องลงมือด้วยตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก เมื่อศึกษาจนแน่ใจ เข้าใจองค์ประกอบทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปกรณ์ที่แตกต่างกันออกไปตามการใช้งาน คุณสมบัติก็เลือกที่จะไม่ใช้ใบมีดคอปเตอร์ (ใบมีดแบบมี วงแหวนล้อมรอบ) ที่คนนิยมเพราะถ้าหลุดมือจะไม่สามารถควบคุมได้และอาจเกิดอุบัติเหตุ หรือเรื่องการแต่งกายก็เลือกที่จะให้น็อตใส่หมวกกันน็อก ถุงมือ เเละเสื้อผ้าหนาๆเพื่อให้ปลอดภัยมากที่สุด

“ห้าปีมานี้ผมมีเครื่องตัดหญ้าให้น็อตห้าตัว ทั้งหมดเกือบห้าสิบไร่น็อตตัดคนเดียวเกือบทั้งหมด เขาจัดการได้เองทุกอย่าง ไม่ว่าจะซ่อมเครื่องล้าง เปลี่ยนทาน้ำมัน เปลี่ยนหัวเทียนได้ด้วยตัวของเขาเอง โดยที่ผมไม่ต้องยุ่งเรื่องการตัดหญ้าอีกแล้ว ถามว่าแบบนี้โรงเรียนที่ไหนเขาจะสอนให้ผมได้”

การนำการเกษตรเข้ามาใช้ในการบำบัดและดูแลผู้มีอาการ Asperger’s เป็นเรื่องที่ใหม่มากในสังคมไทยและไม่ใช่เรื่องที่ใครๆคุ้นเคย ดังนั้นกระบวนการของคุณสมบัติจึงถูกคนรอบข้างตั้งคำถามอยู่เสมอ ถึงความเป็นไปได้และความเหมาะสมในการมอบหมายให้น็อตทำการเกษตร เเต่การที่คุณสมบัติได้คอยสังเกตเเละประเมินผลของลูกอย่างต่อเนื่องตั้งเเต่ความสนใจ เรื่องการดูแลสุขภาพเริ่มเเรก การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาจนถึงการต่อยอดหลักการของ ‘Automatic Learning’ มาเป็นวิธีการทำเกษตรบำบัด ก็ได้ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีมากกว่าที่คิดเพราะการเกษตรนั้นเปลี่ยนให้ความหมกมุ่นและย้ำคิดย้ำทำของน็อตซึ่งเคยเป็นเรื่องแปลกประหลาดเมื่ออยู่ที่อื่น กลายเป็นความถนัดเฉพาะทางที่เชี่ยวชาญยิ่งกว่าใครๆ

นอกจากนั้น วิถีชีวิตในสวนป่ายังทำให้คุณสมบัติมีสุขภาพกายแข็งแรงถึงขนาดสามารถยกปูนหนัก 50 กิโลกรัมได้ด้วยตัวคนเดียว และช่วยรักษาฝ้าที่แก้มสองข้างของภรรยาจากที่เคย เสียค่ารักษาพยาบาลไปหลายแสนโดยไร้ผลแต่เเค่กินมัลเบอร์รี่ ปลอดสารจาก ‘สวนสมบัติ’ เป็นระยะเวลาปีกว่าๆรอยฝ้าก็หายไปได้ เมื่อค้นหาข้อมูลต่อ พวกเขาพบว่ามัลเบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า “แอนโทไซยานิน” ซึ่งช่วยยับยั้ง การทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนสที่เมื่อมีปริมาณมากเกินไปจะทำให้เกิดความผิดปกติทางผิวหนัง เช่น รอยด่างดำ ฝ้า และกระ

“ฝ้าเลือดก็แก้ที่เลือดไงครับ” เขากล่าวสะท้อน แนวคิดการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของคุณสมบัติที่คำนึงถึงสุขภาพที่ยั่งยืนอยู่เสมอ

กว่าการทำ ‘เกษตรบำบัด’ จะประสบความสำเร็จอย่างในทุกวันนี้ทั้งคุณสมบัติและน็อตเดินทางผ่านความยากลำบากและกระบวนการที่ยาวนานมาตลอดหลายปี และคงไม่มีอะไรที่ทำให้คนเป็นพ่อทุกข์ทรมานใจมากไปกว่าการเห็นว่าลูกไม่สามารถเเสดงความรักต่อครอบครัวได้ เเละใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างยากลำบาก แต่คุณสมบัติเล่าว่า การได้เห็นลูกชายมีสุขภาพกาย สุขภาพใจที่ดีขึ้นโดยไม่ต้องใช้ยาหรือสารเคมีเข้าไป ในร่างกายและยังสามารถดูเเลตัวเองได้อย่างมั่นคงนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ความพยายามตลอดมากลายเป็นสิ่งที่คุ้มค่าที่สุด

ผลพลอยได้ของการฟื้นฟูและบำบัดอาการของน็อต ภายใต้วิถีธรรมชาติคือผืนดินของสวนป่าที่เดิมเคยเป็นไร่มันสำปะหลังเชิงเดี่ยว กลับกลายมาเป็นสวนที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุพันธุ์ไม้นานาชนิดและแปลงผักปลอดสารพิษ การได้ต่อสู้ร่วมกันกับครอบครัวเพื่อคืนชีวิตที่แข็งแรงและเปี่ยมสุขให้กับน็อต ยังทำให้ทุกคนในครอบครัวมีสุขภาพกายเเละใจที่ดีสามารถกินอยู่และใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืนและสมดุลจนคุณสมบัติถึงกับพูด ทิ้งท้ายกับเราว่า

“ผมสามารถตายตอนนี้เลยก็ยังได้ เพราะครอบครัวของผมพึ่งพาตัวเองได้ อยู่ได้อย่างมีความสุขและไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงอีกแล้ว”

บทความจาก: บทเรียนพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาธุรกิจเกษตรของเกษตรกรรุ่นใหม่ - ทำเนียบคนกล้าคืนถิ่น โดยมูลนิธิส่งเสริมการออกแบบอนาคตประเทศไทย และมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช