คนกล้าคืนถิ่น

กสิณาณัฐ ท้วมโชติ

  • คนกล้าพิจิตร
  • เว็บไซต์ :
  • Facebook : กสิณาณัฐ ท้วมโชติ

จากพนักงานการบัญชี สู่วิถีคนกล้า คืนถิ่น

หญิงแกร่ง เปิดโลกว้าง จากห้องสี่เหลี่ยมในออฟฟิศ ออกมาพบโลกว้าง เข้าร่วมโครงการ ทำเกษตรทฤษฎีใหม่ ตั้งใจ คืนความเป็นอยู่ในสมัยก่อน ที่มีความเอื้อเฟื้อ พึ่งพากันและกัน คืนอาชีพเกษตรแบบดังเดิม ที่สืบทอดกันมา

จากพนักงานการบัญชี ทั้งในกรุงเทพ และ ในจังหวัดพิจิตร ที่ทำงานอยู่กับห้องสี่เหลี่ยม ในออฟฟิต กว่า 15 ปี ของ นางกสิณาณัฐ ท้วมโชติ อายุ 44 ปี 24/2 หมู่ที่ 2 ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร หนึ่งในสมาชิก คนกล้าคืนถิ่น ที่ผันตัวเอง มาทำการเกษตร ทฤษฎีใหม่ บนพื้นที่ กว่า 17 ไร่ โดยหวังจะคืนความเป็นอยู่สมัยก่อน ที่เคยพึ่งพา อาศัย เพื่อนบ้าน แบบ เข้าบ้านไหน กินได้กับบ้านนั้น มีสิ่งของ แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน โดยไม่มีผลตอบแทนของเงินตราเข้ามาเกี่ยวข้อง สืบทอดอาชีพของบรรพบุรุษ ที่ทำการเกษตรมาแต่ดั้งเดิม

กสิณาณัฐ ท้วมโชติ เล่าว่า เริ่มแรก หลักจากเรียนจบ ก็เข้าทำงานทำบัญชี เสมียนในโรงซ่อม ทั้งในกรุงเทพมหานคร และ ในพื้นที่จังหวัดพิจิตรหลังจากปี 2546 ต้องประสบปัญหาการจ้างงาน จึงต้องออกมาอยู่บ้านจึงลองคิดทบทวน การหาอาชีพใหม่โดยไม่ต้อง มีการแข่งขันกับเพื่อนร่วมอาชีพในบริษัทเดียวกันจึงได้ศึกษาการทำการเกษตรจากที่พ่อและแม่เคยประกอบอาชีพมา ควบคู่กับการศึกษาในระบบอินเตอร์เน็ต

ค้นไปศึกษาไป จนมาพบกับโครงการคนกล้าคืนถิ่น จึงตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกทันทีเพื่อจะได้นำความรู้มาปรับปรุงพื้นที่ ที่มีอยู่แล้ว สิ่งแรกที่ได้รับจากการเข้าร่วมเป็นสมาชิก คือ ออกจากห้องสี่เหลี่ยมที่เคยทำงาน ได้เจอเพื่อนใหม่ ทั้งที่อบรมในโครงการ ได้มาพบกับการทำการเกษตร ทั้งรู้จักต้นไม้ พืชผัก แต่ละชนิด รวมถึงความรู้นอกห้องเรียนการลงการปฏิบัติ ในการทำการเกษตร
จุดสำคัญของ พื้นที่ที่นำมาปรับเปลี่ยนการทำการเกษตร ก็คือสระน้ำขนาด 1 งาน ที่ทางรัฐบาลและหมู่บ้าน ทำการขุดไว้ ในโครงการหัวไร่ปลายนา จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับแต่งพื้นที่ โดยมีหัวใจหลักคือ น้ำ เนื่องจากพื้นที่เป็นพื้นที่สูง หาแหล่งน้ำยาก ซึ่งภายในสระทำการปล่อยปลา ทั้งปลาเศรษฐกิจ ปลากินพืช และปลาที่ปรับสมดุล ให้กับแหล่งน้ำรอบสระน้ำ ถูกจัดวางด้วย ไม้ผลและไม้ผัก ทั้งกล้วย ต้นเพกา หรือผักขี้กา ตามที่ชาวบ้านเรียกไว้ ปลูกเรียงรายสลับกันไปอย่างเป็นระเบียบ ด้านหน้า มีสวนไผ่ ที่กำลังแตกหน่อไม้ และ ลำต้น แผ่ สร้างกำแพงแรงลม พร้อมให้ร่มเงา รวมถึงไม่ยืนต้น ต้นสัก กระทินเทพา

แม้ว่าเป็นผู้หญิง ร่างกายไม่เหมือนกับผู้ชาย  แต่ได้ทำอะไรมากมายในชีวิตตลอด 1 ปี เศษ ที่หลังจากเข้าโครงการ และที่เริ่ม เปลี่ยนแปลงชีวิตจากพนักงานบัญชีมาเป็นเกษตรกรเต็มตัว ถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้จะยังมีผลิตภัณฑ์ที่ออกจากการทำการเกษตรบนเนื้อที่ 17 ไร่ ไม่มากนัก แต่ยังได้ผลผลิตจากหน่อไม้ ที่ปลูกไว้ กว่า 20 ต้น ได้แจกจ่ายให้กับชาวบ้านรอบข้างได้นำไปเป็นอาหาร ตามความตั้งใจที่อยากคืนความเป็นอยู่ในสมัยก่อนที่ชาวบ้านที่เคยพึ่งพา อาศัยกันมีกินแบ่งกันกิน เหลือสร้างรายได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ของชีวิตจากการกลับมาอยู่บ้านก็คือ ได้ใกล้ชิด กับครอบครัว ทั้ง พ่อแม่ และ บรรดาลูก อีก 2 คน

ทุกวันนี้ เพื่อนหลายคนต่างเข้ามาถามถึงการดำเนินรูปแบบ การทำการเกษตรทฤษฎีใหม่พร้อมทั้งให้คำปรึกษา ได้ตามความรู้ที่ได้ศึกษา และลองทำการปฏิบัติมา จนเพื่อนบางคนต่างนำเอาไปปรับเปลี่ยนถามว่ายากไหมที่จะปรับเปลี่ยน ความคิดสำหรับคนทำการเกษตรด้วยกัน ตอบได้ทันทีว่ายากเนื่องจากปัจจุบันมีการทำการการเกษตรแบบเชิงพานิช เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่อย่างน้อยเราได้ทำด้วยความตั้งใจ และต้องรอเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์แต่อย่างน้อยที่ทำ เกิดความสุข ทั้งตนเอง และครอบครัว