คนกล้าคืนถิ่น

ปัจจุบันรับราชการ ทำงานในหน่วยงานของรัฐ เมื่ออดีตได้กู้เงินจากธนาคารเพื่อทำอาชีพเสริมในครอบครัว แต่ในที่เราขาดความรู้ความเข้าใจทำให้มีภาระหนี้สิน จำเป็นต้องหาทางออกของครอบครัวในการหารายได้ โดยยึดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงรัชการที่ 9 เป็นที่ตั้ง เกิดการพูดคุย ปรึกษาหารือ สรุปว่าการเกษตรคือตำตอบ โดยใช้แนวคิด ชาวอีสานกินอะไร เราผลิตสิ่งนั้น ปลูกทุกอย่างที่อยากกิน กินทุกอย่างที่ปลูก ทำเกษตรผสมผสาน ป่า3อย่างประโยชน์ 4 อย่าง เริ่มทำในเดือนตุลาคม 2554 ต่อมาจึงได้เข้าร่วมโครงการคนกล้าคืนถิ่น รุ่น 1 ที่จังหวัดยโสธร ได้แนวคิดจากโครงการว่าเรามาถูกทางแล้ว มีเพื่อน มีเครือข่าย ให้ร่วมคิดปรึกษาหารือ ต่อมาปี 2559

แม่ยายป่วยน้ำหนักลดผิดปกติ กว่า 10 กิโลกรัม จึงไปตรวจสุขภาพที่ รพสต. ในการตรวจมะเร็งปากมดลูก ทำให้พบว่ามีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกจึงตัดชิ้นเนื้อไปตรวจแต่ก็ไม่พบเซลมะเร็งแต่หมดก็นัดตรวจสุขภาพทุก 6 เดือน ทำให้ครอบครัวตัดสินใจทำเกษตรอินทรีย์ไม่ใส่ปุ๋ยเคมี สารเคมียาฆ่าแมลงต่างๆ ปรากฏว่าการที่เราทำเกษตรอินทรีย์ ปัจจุบัน มีหน่อไม้ไผ่เลี้ยง 300 กอ มะนาวในวงบ่อ 50 วงบ่อ นะนาวลงดิน 50 ต้น มะกรูด 50 ต้น ข่าอ่อน 100 กอ และผักอายุสั้นต่าง ไก่บ้าน ไก่งวง และเลี้ยงไส้เดือนAF เพื่อผลิตปุ๋ยใช้เอง  ขายในชุมชนเป็นหลัก ปัจจุบันได้รับคัดเลือกเป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรอินทรีย์ฯตำบล ปัจจุบันมีความสุขในครอบครัว ได้กินข้าวพร้อมหน้ากัน กินอาหารที่ปลอดสารพิษ ชุมชนก็ได้กินผักปรอดสารพิษด้วย