คนกล้าคืนถิ่น

กชมล สีนวล

  • คนกล้าสระบุรี
  • เว็บไซต์ :
  • Facebook : Meekhunavich

คืนถิ่นฐาน สานต่อความฝันการเป็นเกษตรกรและชีวิตที่พอเพียง

ด้วยใจรักในวิถีเกษตรที่ฝังอยู่ภายใต้จิตสำนึกมาตลอดว่า อยากกลับบ้านเกิดมาอยู่กับครอบครัวและประกอบอาชีพเกษตร จึงตัดสินใจกลับบ้าน เพราะเหนื่อยล้ากับการทำงานเป็นลูกจ้าง ในช่วงกำลังเจริญก้าวหน้า กับ ตำแหน่งผู้จัดการหมู่บ้านจัดสรร งานดี เงินดี แต่ ! ไม่มีวันหยุด … ไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัว

เมื่อคลอดลูกคนแรก … ลาออกและกลับบ้านที่ จ. สระบุรีทันที เพื่อทำการเกษตร แต่แม่รับไม่ได้ … ที่อุตสาห์ส่งเสียให้เรียบจบถึงขั้นปริญญา แต่กลับมาจะคลุกดินคลุกฝนทำการเกษตร

ก็คงเหมือนแม่คนอื่นๆ ที่ไม่อยากให้ลูกลำบาก แม่คิดว่าการเรียนสูงๆ ทำงานดีๆ ลูกจะมีความสุข แต่จริง ๆ แล้ว การอยู่คนเดียวมันโดดเดี่ยว พอมีครอบครัว ก็ทำแต่งานไม่มีเวลาให้กับครอบครัวอีก แม่ไม่เห็นด้วย อย่างไร เช่น เราปลูกแม่บ่น เราปลูกแม่ถอน เราปลูกแม่บอกให้ไปหางานทำ ฯลฯ
แล้วผ่านจุดนี้มาได้อย่างไร หรือว่าแม่ก็ยังคงไม่เห็นด้วยอยู่ … แล้วเราแก้ไขอย่างไร กลับบ้านมาทำเกษตรเมื่อประมาณ 5 ปีมาแล้ว (พ.ศ. 2554) ลงทุนทำฟาร์มอย่างดีเพื่อเลี้ยงเป็ด … 1 ปีผ่านไป เจ๊งค่ะ … ขาดทุน เหตุการณ์ขาดทุนนี้เกิดขึ้น เพราะไม่ได้ศึกษาก่อนลงมือทำ (กลายเป็นเรื่องเล่าขำ ขำ ถึงวิธีการเลี้ยงเป็ดให้เจ๊ง 555) ก็เลิกเลี้ยงเป็ด แต่ไม่เลิกทำเกษตรนะ เพราะเรามุ่งมั่นที่จะใช้ชีวิต ตามวิถีนี้ เราศึกษาถึงทิศทางตลาดเกษตร แล้วเราจะทำอะไรดี ทำอย่างไร ความรู้ และพื้นที่ที่เรามีอยู่จะนำมาต่อยอดอย่างไรได้บ้าง ปลูกอะไรได้ แหล่งน้ำเป็นอย่างไร ซึ่งก็ทำให้พบคำตอบ เช่น พื้นที่ของเราเป็นที่ลุ่ม คนส่วนใหญ่ที่นี่ทำนาปลูกข้าว เราเองก็ทำนาพอเป็น เพราะตอนเด็กเคยรับจ้างดำนา เกี่ยวข้าว โตมาก็ชอบปลูกผัก ชอบไปช่วยแม่ขายของที่ตลาด นี่มันอยู่ในสายเลือดเลย

เอาล่ะ ฉันจะเป็นชาวนา …
เริ่มแรกก็ปลูกข้าวตามวิถีเคมีที่เค้าทำกันอยู่ก่อนได้ผลผลิตเยอะมาก ตื่นเต้น ภูมิใจในตัวเองอย่างมาก ปลูกข้าวขายได้ราคาไม่ขาดทุน แต่เมื่อปลูกข้าวครั้งที่ 2 ราคาข้าว ตกซะงั้น! ทำไงดีล่ะ มานั่งคิดกัน เราต้องไม่ขายข้าวผ่านโรงสีซิ เราต้องเป็นชาวนา ที่สามารถกำหนดราคาขายเองได้ และชวนให้คนอื่นคิด และทำแบบเราด้วย ผลตอบรับจากการชวนคนอื่นให้คิดและทำตามเป็นอย่างไร และตอนนี้มีกระบวนการจัดบริหารอย่างไร

และเมื่อกระแส คนนิยมทานอาหารคลีน ใส่ใจความปลอดภัยของพืชผักที่รับประทาน และนิยมทานข้าวเพื่อสุขภาพมากขึ้น พร้อมกับข้อมูลของข้าวไรซ์เบอร์รี่ เผยแพร่มากมายในโซเชียลมีเดีย เราก็ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ 7ไร่ ตามแนววิถีเกษตรอินทรีย์ ปลูกครั้งแรกดำมือ ไม่ใช้ปุ๋ยเคมีเลย มีแต่คนว่าบ้า ปลูกข้าวอะไรสีดำๆ แล้วจะรอดเหรอ แบบเดิมก็ดีอยู่แล้ว แถมทำเก่งไม่ใส่ปุ๋ยเคมี ไม่ฉีดยาฆ่าแมลงด้วยนะ ก็ใส่ขึ้หมู ขี้วัว ฉีดน้ำหมักสะเดาบ้าง เอาข้าวที่เกี่ยวแล้ว ไปตากที่ลานวัด เมื่อแห้งดี 3 แดด ก็เอาไปจ้างเค้าสี แล้วมาแพ็คสุญญากาศ (เก็บง่ายปลอดภัยจากมอด มด) หุงกินบ้าง แจกบ้าง ขายบ้าง ขายครั้งแรกในช่วงตลาดข้าวเพื่อสุขภาพยังใหม่ ราคาถูก ขายส่งที่ กก.ละ120 บาท ขายปลีก กก.ละ 150 บาท กระแสตอบรับดีมาก … นี่เป็นจุดที่อยากให้ชาวนาคนอื่นๆ เห็น แม้ได้ผลผลิตไม่เยอะ เราก็อยู่ได้เพราะต้นทุนต่ำ ปลูกเองกำหนดราคาขายเอง ที่ปลอดภัยคือเราและคนที่เรารัก ได้กินข้าวที่ปลอดภัยไร้สารเคมี มันยอดเยี่ยมไปเลยล่ะ และลูกค้ารู้จักเราในชื่อ “ข้าวดี มีคุณ บ้านสวนวิถีเกษตรอินทรีย์

ข้าวชื่อนี้รับประทานดี ปลอดภัยทั้งบ้าน และเราไม่ได้ปลูกข้าวแค่อย่างเดียวนะ เราทำสวนเกษตรผสมผสาม ปลูกข้าว ปลูกผัก เลี้ยงปลา ปลูกป่า เลี้ยงปูนา พร้อมแปรรูปผลิตภัณฑ์ ทางเกษตร ผลผลิตเยี่ยม ยอดขายดี ชีวิตดี๊ดี สุดท้าย อยากชวนให้คนที่มีหัวใจรักในอาชีพเกษตร หรือคนที่คิดอยากจะกลับคืนถิ่นฐานบ้านเกิด คืนถิ่นฐานด้วยกัน มาเป็นผู้ร่วมสืบทอดอาชีพของคนไทยไม่ต้องกังวลกับการเริ่มต้น เพราะการทำเกษตรไม่ต้องใช้ทุนสูงอย่างที่คิด เรามีเครือข่ายของครู เพื่อน พี่น้องคนกล้าทุกคน ที่จะพากันไปสู่ความสุข และอิสระของชีวิตที่แท้จริง และได้ดูแลพ่อแม่ตามหน้าที่ลูกของเราด้วย”

“เราคือคนกล้า เราบ้าคืนถิ่น
พลิกฟื้นผืนดิน สืบศาสตร์พระราชา”

กองทอง สีนวล (แหม่ม)
คนกล้าคืนถิ่น อ. หนองโดน จ. สระบุรี